พืชผักสมุนไพรห่างไกลโรค


พืชผักสมุนไพรห่างไกลโรค

อาการเจ็บไข้ได้ป่วย เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นปวดศีรษะ ปวดท้อง เจ็บคอ ไอ น้ำร้อนลวก มดกัด ยุงกัด ท้องเสีย ท้องอืด เป็นต้น 

ที่หลายๆคนมักจะเลือกใช้ยาแผนปัจจุบัน ที่คิดว่าเป็นวิธีที่รวดเร็วทันใจ หายขาดทันตา แต่มาลองมองหารอบบ้านของเราว่ามีพืชผักสมุนไพรอะไรปลูกอยู่หรือไม่? 

เพราะพืชผักสมุนไพรเหล่านี้สามารถนำมาใช้รักษาอาการเจ็บไข้เล็กๆน้อยๆ เหล่านี้ได้ผลชะงัดนักแลสู้ยารักษาโรคแผนปัจจุบัน 

แถมบางชนิดยังสามารถรักษาโรคยอดฮิต อย่างโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็งได้อีกด้วย

 

 

ใบบัวบก

“อกหักมา ต้องทานใบบัวบก” ประโยคที่ใครๆหลายคนเคยได้ยินกัน ที่สามารถแก้อาการช้ำใจ เอ้ยย ช้ำในแล้ว ( ลดอาการอักเสบ ) 

ยังมีสรรพคุณหลายอย่างที่ไม่รอตอนอกหักอย่างเดียวถึงจะทานได้ ทานใบบัวบกยังสามารถช่วยให้

- บำรุงรักษาดวงตา และสายตา เพราะมีวิตามินเอสูง

- เพิ่มความสามารถในการจำ ลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์

- แก้อาการปวดเวียนศรีษะ

- บรรเทาอาการร้อนใน เจ็บคอ กระหายน้ำ

- รักษาความดันโลหิต

- บำรุงโลหิต ป้องกันภาวะโลหิตจาง

 

ว่านหางจระเข้

ในประเทศไทยมีการปลูกว่านหางจระเข้อย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมที่ทุกๆบ้านต้องมี ในตำรับยาไทยก็ใช้ว่านหางจระเข้บำบัดอาการต่าง ๆ ได้มากมาย 

จนเรียกได้ว่า เป็นพืชอัศจรรย์ที่มีสรรพคุณสารพัดประโยชน์โดย วุ้นในว่านหางจระเข้ สามารถนำมาบรรเทาอาการปวดศีรษะได้

 สรรพคุณเด่นๆ ที่ทุกคนน่าจะรู้จักคือ นำมาพอกแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แก้ปวดแสบปวดร้อน แผลเรื้อรัง แผลในกระเพาะอาหาร เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยสมานแผล 

ที่สามารถมาทำเมนูเครื่องดื่มต่างๆได้มากมาย อย่างเช่น น้ำว่านหางจระเข้สมูทตี้ ว่านหางจระเข้ลอยแก้ว ที่อร่อยแถมยังได้สรรพคุณที่ดีอีกด้วย

 


ใบกะเพรา

ใบกะเพราจัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่มีความนิยมมาทำอาหารในบ้านเราแล้ว แถมยังมีสรรพคุณทางยาช่วยรักษาโรคได้หลายชนิด 

อย่างตำราสมุนไพรไทยบ้านเราบรรยายสรรพคุณของกะเพราเอาไว้ว่า รสฉุน ร้อน ช่วยขับลมแก้ซาง แก้ท้องขึ้น จุกเสียดแน่นท้อง ปวดท้อง 

ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยบำรุงธาตุ เป็นต้น แต่ในต่างประเทศก็มีการใช้กะเพราในการรักษาโรคกันอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าบ้านเราเสียอีก เ

ขาถือว่ากะเพราเป็นยารักษาโรคได้ทุกโรค และยังจัดเป็นราชินีแห่งสมุนไพร หรือเป็นยาอายุวัฒนะก็ว่าได้ 

ถ้าเบื่อเมนูผัดกะเพราเรามีเมนูเครื่องที่แนะนำคือ น้ำใบกะเพรา ที่ข่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ดี เป็นต้น

 


กระเจี๊ยบแดง

ถ้าพูดถึงกระเจี๊ยบแดง หลายๆคนคงนึกถึงน้ำกระเจี๊ยบสีแดง ๆ รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วชื่นใจ 

แล้วเคยสงสัยถึงสรรพคุณกระเจี๊ยบกันบ้างไหมว่า กระเจี๊ยบแดงนั้นมีสรรพคุณดีต่อสุขภาพยังไงบ้าง

 ในส่วนของใบกระเจี๊ยบแดงยังแก้โรคพยาธิตัวจี๊ด แก้ไอ ละลายเสมหะ ส่วนดอกใช้แก้โรคนิ่วในไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ละลายไขมันในเส้นเลือด 

*แต่ส่วนที่มีสรรพคุณมากที่สุดคือ ส่วนกลีบเลี้ยงของดอก สามารถช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิต นำไปทำเป็นน้ำกระเจี๊ยบดื่มช่วยให้ร่างกายสดชื่น 

ลดความเหนียวข้นของเลือด ขับปัสสาวะ ป้องกันต่อมลูกหมากโตให้คุณผู้ชายได้ด้วย 

ถ้าทานต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ระดับไขมันในเลือด ทั้งคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันเลวลดลง และยังเพิ่มไขมันชนิดดีคือ HDL ได้อีกด้วย

 

 


มะขามป้อม

จัดเป็นยาอายุวัฒนะ เพราะแทบทุกๆส่วนของต้นและผลนั้นล้วนแต่มีสรรพคุณทางยาเพียบบ!

- ผลของมะขามป้อม

จะมีรสเปรี้ยวและให้วิตามินซีสูงมากดังนั้นผลมะขามป้อมสดจึงมาใช้เป็นยาแก้หวัด แก้ไอ ละลายเสมหะ รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน นอกจากนั้น

- ส่วนราก ยังแก้พิษตะขาบกัด แก้ร้อนใน ลดความดันโลหิต แก้โรคเรื้อน

- ส่วนเปลือก แก้โรคบิด และฟกช้ำ ส่วนปมก้าน ใช้เป็นน้ำยาบ้วนปาก แก้ปวดฟัน

- ส่วนเมล็ด สามารถนำไปเผาไฟผสมกับน้ำมันพืช ทาแก้คัน แก้หืด หรือตำเมล็ดให้เป็นผง ชงกับน้ำร้อนดื่มแก้โรคเบาหวาน หอบหืด หลอดลมอักเสบก็ได้อีกด้วย

 

 


อบเชย

เป็นเครื่องเทศชนิดนี้ขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณทางยา จัดได้ว่าเป็นยาธรรมชาติเก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งของโลก 

ยอดพ่อครัวทั่วโลกเชื่อมั่นในกลิ่นรสพิเศษของอบเชยว่า ช่วยชูความอร่อยหอมหวานให้กับอาหาร ปัจจุบันนักวิชาการสนใจอบเชยเพราะรู้ดีว่าเป็นตัวช่วยรักษาความสมดุลของน้ำตาลในเลือด 

ช่วยสมานแผล ป้องกันอาการท้องร่วง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ หรือลดระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากเปลือกของอบเชยประกอบไปด้วยสารแทนนิน (Tannins) สารอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

 

เห็นได้ว่าพืชผักสมุนไพรที่ใกล้ตัวเราสามารถรักษาโรค และบำรุงร่างเราไม่แพ้ยารักษาโรคแผนปัจจุบันเลยทีเดียวไม่ทำให้เหลือสารตกค้างไว้ในร่างกาย 

ที่สำคัญ นอกจากนี้เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 

ทำจิตใจที่แจ่มใสสดชื่น ไม่เพียงแค่จะช่วยไม่ให้ร่างกายได้รับผลกระทบจากความเครียด ห่างไกลโรคภัยมีแรงใช้ชีวิตและทำงานอย่างมีความสุข